คลี่คลายความซับซ้อน: ฉายภาพการ Doxxing ผ่านหนัง

This post is also available in: อังกฤษ

จากซ้ายไปขวา: วีรยา ผู้กำกับหนังและผู้ประสานงานแคมเปญเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม Tech Tales Youth, ฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ที่ปรึกษาที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย, มีน ผู้กำกับภาพยนตร์ Doxxed, ดร.เจษฎา ศาลาทอง อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปฏิพัทธ์ ผู้กำกับหนัง Black Hole, และ กาลเวลา เสาเรือน บรรณาธิการข่าวบันเทิงและผู้ประกาศข่าวของ Workpoint23

เขียนโพสต์โดย Aly Suico

ธนากร ยังมีสุข หรือมีน เป็นผู้กำกับที่มีความหลงใหลในโลกภาพยนตร์และมักจะหาโอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝนการสร้างหนัง เขาเรียนที่ภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยหนังเรื่อง One Use (2566) เป็นหนังสั้นเรื่องแรกของเขาในฐานะผู้กำกับและผู้เขียนบท ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาล CCCL Film Festival 2023

ความหลงใหลในการสร้างภาพยนตร์ของมีนทำให้เขามีส่วนร่วมในหลากหลายแนวภาพยนตร์ เขาใช้แพลตฟอร์มของเขาในการเล่าเรื่องที่สร้างผลกระทบกับสังคม ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้เข้าร่วมในโครงการ Tech Tales Youth ของ EngageMedia บทความนี้มีนได้เล่าถึงประสบการณ์ของเขาในการสร้างหนัง Doxxed เพื่อดึงความสนใจไปยังสิทธิดิจิทัลในประเทศไทย

จุดเริ่มต้นในการสร้างแคมเปญที่มีผลกระทบกับสังคม

เมื่อมีนเริ่มสังเกตเห็นข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เขาพบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่ประเด็นนี้ไม่ได้รับความสนใจจากสังคมมากนัก มีนเห็นว่าประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัลไม่ได้รับความสนใจในกระแสสังคมมาก แม้จะมีกรณีการหลอกลวงผ่านแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์และการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การถูกล่วงละเมิดและคุกคามทางออนไลน์

ในตอนนั้นมีนยังไม่ค่อยรู้เรื่องสิทธิดิจิทัลมากนัก สิ่งที่เขารู้ก็คือการหลอกลวงทางดิจิทัลและการรั่วไหลของข้อมูลเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้คนในเรื่องความเป็นส่วนตัว สิ่งนี้กระตุ้นให้มีนใช้ทักษะการสร้างหนังและการเล่าเรื่องของเขาเพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เรื่องราวเกี่ยวกับสิทธิดิจิทัลในประเทศไทยมากขึ้น หากข่าวไม่เพียงพอที่จะสร้างความเข้าใจ บางทีอาจถึงเวลาที่สื่อสร้างสรรค์จะเข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากคนไทยยังไม่เชื่อมโยงสิทธิดิจิทัลให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องในชีวิตของพวกเขา มีนยืนหยัดในความเชื่อว่าเรื่องราวของสิทธิดิจิทัลสามารถเล่าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านหนัง ซึ่งช่วยให้ผู้คนเปิดใจและเข้าใจว่าประเด็นเรื่องสิทธิดิจิทัลใกล้ตัวเพียงใด และมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด

มีนเริ่มค้นคว้าเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งขึ้น โดยพยายามอธิบายผลกระทบของการละเมิดสิทธิต่างๆ เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว เขาได้พบกับบทความข่าวและกรณีศึกษาจำนวนมากที่เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์และการถูกล่วงละเมิดออนไลน์ที่ถูกใช้เพื่อควบคุมผู้คน ระหว่างการค้นคว้าเขาค้นพบว่าการทำ Doxxing ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากขึ้น ผู้หญิงกลายเป็นผู้เปราะบางแม้แต่ในโลกดิจิทัล โดยต้องเผชิญกับการล่วงละเมิดทางเทคโนโลยี การสะกดรอยตามทางออนไลน์ และการแบล็กเมล์ น่าเสียดายที่ประสบการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้หญิง แต่เป็นการทำซ้ำสิ่งที่พวกเขาเผชิญในชีวิตจริง

สำหรับมีนซึ่งเป็นผู้ชาย การเข้าใจถึงความทุกข์ทางจิตใจ อารมณ์ และร่างกายที่เกิดจากการทำ Doxxing กับผู้หญิงนั้นสำคัญมาก เขารับฟังเรื่องราวจากผู้หญิงที่ใกล้ชิดกับเขา ไม่ว่าจะเป็นแฟน ครอบครัว และเพื่อนในมหาวิทยาลัย ความรุนแรงของประสบการณ์การล่วงละเมิดของพวกเธอไม่ได้จบแค่การได้รับข้อความข่มขู่ แต่ตามที่มีนได้เรียนรู้ ยังมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย การได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้กระตุ้นให้เขาคิดเรื่องราวของ Doxxed ขึ้นมา

การขับเคลื่อนแคมเปญที่มีผลกระทบต่อสังคม

โปสเตอร์หนังเรื่อง DOXXED จากโครงการ Tech Tales Youth
ธนากร ยังมีสุข หรือมีนผู้กำกับหนังสั้น Doxxed

การระบุประเด็นที่ชัดเจนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการคิดแนวคิดหนังเป็นขั้นตอนสำคัญในงานสร้างหนังเพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคม ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางการเผยแพร่หนังเพื่อให้บรรลุผลกระทบตามกลยุทธิ์ที่วางไว้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญที่มีนได้รับบทเรียนจากการสร้างแคมเปญนี้ หนังของเขา Doxxed มีกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะ ได้แก่ เยาวชนไทย นักข่าว ผู้ทำงานด้านสื่อ และผู้หญิง ซึ่งสะท้อนผ่าน “เจน” ตัวละครหลักของหนัง

มีนได้ร่วมมือกับผู้กำกับหนังอีกสองคนจากโครงการ Tech Tales Youth เพื่อฉายหนังที่ Doc Club and Pub ซึ่งเป็นโรงหนังและคอมมิวนิตี้สำหรับคนสร้างหนัง หนังทั้ง 3 เรื่องนำเสนอแง่มุมต่าง ๆ ของสิทธิดิจิทัล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาในการเสวนา “สนทนาหาทางออก หยุดคุกคามทางออนไลน์เพื่อสิทธิดิจิทัล” โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญ ได้แก่ คุณฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ที่ปรึกษาที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ประเทศไทยและอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ดร.เจษฎา ศาลาทอง อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, และ คุณกาลเวลา เสาเรือน บรรณาธิการข่าวบันเทิงและผู้ประกาศข่าวของ Workpoint23 ในการเสวนานี้มีผู้ชมประมาณ 26 คนซึ่งเป็นเยาวชนไทย พวกเขาเข้าใจผลกระทบของการติดตามข้อมูล การหลอกลวงออนไลน์ และการรั่วไหลของข้อมูลในชีวิตประจำวันของพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิ นักเล่าเรื่อง ผู้สร้างหนัง และหนังของพวกเขา ประเด็นนี้ถูกอธิบายในลักษณะที่ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกว่ามันไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด

ผู้ชมได้เข้าไปสอบถามวิทยากรเพิ่มเติมหลังงานเสวนาเกี่ยวกับดิจิทัลและมาตรการอื่น ๆ ที่พวกเขาสามารถปฏิบัติเพื่อปกป้องตนเองทางออนไลน์ มีนได้เล่าการเปลี่ยนแปลงของเพื่อนของเขาที่เป็นหนึ่งในผู้ชมซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เรื่องประเด็นนี้มาก่อน แต่พอได้เข้าร่วมงานเสวนา เพื่อนของมีนก็เข้าใจภาพรวมของประเด็นสิทธิดิจิทัลในประเทศไทยได้ดีขึ้น

กลุ่มนักศึกษาเข้าร่วมการฉายหนังและการเสวนาที่ Doc Club and Pub
บรรยากาศของการฉายหนัง Tech Tales Youth และวิทยากรจากสื่อและวงการวิชาการแบ่งปันมุมมองในช่วงการเสวนาหลังการฉายหนัง

การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างแคมเปญที่มีผลกระทบต่อสังคม

คุณกาลเวลา เสาเรือน หรือเปาะเปี๊ยะ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของมีนให้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งเธอเป็นนักข่าวที่ร่วมในวงเสวนานี้ด้วย คุณเปาะเปี๊ยะได้แบ่งปันประสบการณ์ของเธอในการถูกคุกคามในฐานะนักข่าว และบอกมีนว่าหนังของเขาสื่อถึงความรู้สึกของความไม่ปลอดภัยที่ผู้หญิงต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเปราะบางที่เปิดเผยในโลกดิจิทัล ในระหว่างการเสวนา เธอเปิดเผยว่าแม่ของเธอเคยถูกคุกคามหลังจากที่คนเหล่านั้นค้นพบว่าเธอเป็นนักข่าว ข้อมูลนี้ทำให้มีนประหลาดใจ เนื่องจากเขาเพิ่งทราบในระหว่างการเสวนา

เมื่อเห็นผลกระทบของหนังสั้นของเขาต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิดิจิทัล มีนจึงเห็นความสำคัญของการระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเขาอย่างถูกต้อง การกระจายหนังในปัจจุบันมักจะพาผู้สร้างหนังไปขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้าง โดยมุ่งเน้นที่การหาแพลตฟอร์มที่จะดึงดูดความสนใจในหนังของพวกเขา แต่มีนพบเส้นทางอีกหนึ่งทางเลือก คือการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเข้าถึงหนังที่มีผลกระทบต่อสังคม

ประสบการณ์ของมีนในการสร้างแคมเปญเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ได้ทำให้เขาชื่นชมความสามารถของการสร้างหนังมากขึ้น เขาตระหนักว่าการสร้างหนังไม่เพียงแค่เปิดมุมมอง แต่ยังสามารถสร้างพื้นที่สำหรับการอภิปรายประเด็นที่ผู้คนมักจะยากในการรับรู้ ผ่านกิจกรรมการสร้างผลกระทบของเขา มีนและเพื่อนผู้สร้างหนังของเขาได้ทำให้เห็นคุณค่าของการสนทนาของ Key Person ของสังคม และการร่วมมือในการค้นหาวิธีแก้ไข

นอกเหนือจากโครงการ Tech Tales มีนกำลังหาโอกาสเพื่อสร้างหนังเรื่องใหม่ที่เกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชน โดยจะมีการผสมผสานแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในเรื่องราว เป้าหมายของเขาคือการทำให้ปัญหาขนาดใหญ่ เช่น สิทธิดิจิทัลและสิทธิมนุษยชน ให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจและพูดคุยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

คุณกาลเวลา เสาเรือน เล่าประสบการณ์การโดน Doxxing ในระหว่างที่เธอทำหน้าที่นักข่าว และอธิบายว่าทำไมหนังของมีนถึงมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของเธอ
คุณฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ที่ปรึกษาที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เล่าถึงแนวทางในการปรับกฎหมายด้านสิทธิดิจิทัลของประเทศไทย
ในการสร้างสรรค์หนังเพื่อการเปลี่ยนแปลงต่อสังคม มีนขอแนะนำภาพยนตร์ที่เขาได้ดูระหว่างการสร้างหนัง Doxxed ดังนี้: ดู Video4Change Impact Campaign Builder ของมีนได้ที่ด้านล่างนี้: